“Scam City” ถอดรหัสแก๊งคอลเซ็นเตอร์: ยุทธศาสตร์สามมิติ “คน–การสื่อสาร–การเงิน”

สิงหาคม 21, 2025

ในเวที อว. Fair 2025 พล.ต.ต.ดร.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 และรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขึ้นบรรยายในหัวข้อ “Scam City: ถอดรหัสแก๊งคอล เซ็นเตอร์” โดยเปิดผังการทำงานของขบวนการและแนวทางรับมือที่ “ต้องมองทั้งระบบ” มากกว่าจะไล่จับเพียงปลายเหตุ พล.ต.ต.ดร.ศิริวัฒน์ฯ กล่าวว่า ความสำเร็จของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ได้อาศัยเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่อาศัยการล่อลวงให้เหยื่อตัดสินใจพลาดภายในไม่กี่นาที และนั่นคือจุดที่ประชาชนจำนวนมากยังพลาดท่าแม้จะรู้เท่าทันกลโกงจำนวนหนึ่งอยู่แล้ว

พล.ต.ต.ดร.ศิริวัฒน์ อธิบายว่า แก๊ง call center จะมุ่งไปที่ ห้าอารมณ์หลัก ได้แก่ “รัก โลภ ตกใจ เชื่อใจ และเสียดาย” โดยผ่านการอ่านสคริปต์โทรศัพท์และส่งข้อความหลากหลายรูปแบบที่เตรียมไว้อย่างดี เช่น อ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ขู่ว่ามีหมายจับ หรือปั่นให้ตื่นตระหนกเรื่องธุรกรรมผิดปกติ เมื่อเหยื่อเกิดภาวะอารมณ์ที่ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ คนร้ายก็จะควบคุมเหยื่อให้โอนเงินตามช่องทางที่คนร้ายต้องการ นี่คือเหตุผลว่าทำไมคนมีการศึกษาหรือรู้ข่าวก็ยังพลาดได้ หากถูกล่อลวงโดยแก๊ง call center จากนั้น พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ฯ วางกรอบคิดการรับมือแบบ “ระบบนิเวศอาชญากรรม” ที่ต้อง ตัดเสาหลักสามด้าน ของแก๊งให้ขาดพร้อมกัน ได้แก่ “คน–การติดต่อสื่อสาร–การเงิน”

ด้านที่หนึ่ง: “คน” พล.ต.ต.ดร.ศิริวัฒน์ฯ กล่าวว่า จุดเริ่มต้นคือ การประสานข่าวกรองและสืบสวนตั้งแต่ก่อนเข้าประเทศ ควบคู่กับมาตรการเชิงรุกที่สนามบินและด่านตรวจคนเข้าเมือง เพื่อคัดกรองบุคคล พฤติกรรม และเส้นทางเสี่ยง จากนั้นต้องคอยสอดเสาะบนเส้นทางจากด่านเข้าสู่พื้นที่เฝ้าระวัง ตั้งจุดตรวจและสุ่มตรวจเชิงรุกทั้งที่พัก โรงแรม และย่านท่องเที่ยว รวมถึงจุดพักคอยซึ่งมักถูกใช้รวมพลและถ่ายโอนอุปกรณ์ พล.ต.ต.ดร.ศิริวัฒน์ฯ ยังเน้นย้ำว่าพื้นที่ชายแดนต้องเข้มงวดเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่องทางหลักของการเคลื่อนย้ายแรงงานผิดกฎหมายและผู้ก่อเหตุ พร้อมกันนี้จำเป็นต้องขยายกรอบสู่ความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อ “ปิดจากต้นทาง” และรองรับการสืบสวนร่วมและการส่งผู้ร้ายข้ามแดน พล.ต.ต.ดร.ศิริวัฒน์ กล่าว

ด้านที่สอง: “การติดต่อสื่อสาร” สำหรับ “สะพานสื่อสาร” ของขบวนการ พล.ต.ต.ดร.ศิริวัฒน์ฯ ใช้ถ้อยคำตรงไปตรงมาว่าเป็นยุทธวิธี “ระเบิดสะพานโจร” หมายถึงการตัดวงจรสื่อสารให้เสียหายจนไม่สามารถปฏิบัติการได้ต่อ ไม่ว่าจะเป็น “ซิม–สาย–เสา” พล.ต.ต.ดร.ศิริวัฒน์ฯ ระบุว่า เมื่อฝ่ายสืบสวนสามารถจับความเชื่อมโยงได้เร็วพอ การตัดซิมเถื่อนและหมายเลขปลอม การกดดันผู้ให้บริการโครงข่าย และการจัดการกับอุปกรณ์ที่ใช้แปลงโพรโทคอลโทรออก–รับสาย จะทำให้แก๊งเสียสภาพการสื่อสารฉับพลัน “พอสายหลักล่ม สคริปต์ก็เดินต่อไม่ได้ การสั่งการ–เก็บเหยื่อ–และสั่งฟอกเงินทั้งหมดจะขาดตอน” เขากล่าว พร้อมชี้ว่านี่คือมาตรการที่ทำให้อาชญากรต้อง “เปิดหน้า” หาเครื่องมือใหม่จนตามรอยได้ง่ายขึ้น
ด้านที่สาม: “การเงิน” พล.ต.ต.ดร.ศิริวัฒน์ฯ อธิบายว่า “เส้นเลือดของแก๊งคือเงิน” เป้าหมายจึงต้องเล็งไปที่ บัญชีม้า ซึ่งใช้รับ–แตกยอด–และเคลื่อนย้ายเงินข้ามบัญชี ข้ามแพลตฟอร์ม และข้ามพรมแดน มาตรการสำคัญคือการปิดบัญชีม้าให้เร็วที่สุด ควบคู่กับการอายัดเส้นทางเงิน และคืนเงินให้ผู้เสียหายเมื่อหลักฐานเชื่อมโยงครบถ้วน พล.ต.ต.ดร.ศิริวัฒน์ฯ กล่าวว่า เมื่อ “ตามเงินทัน” วงจรธุรกิจผิดกฎหมายจะขาดสภาพคล่อง ลดแรงจูงใจในการขยายเครือข่าย และสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนว่าคดีไม่จบแค่จับผู้ต้องหา แต่จบที่การเยียวยาด้วย
ในระดับสากล พล.ต.ต.ดร.ศิริวัฒน์ฯ กล่าวถึงพัฒนาการสำคัญสองประการที่ “ทำให้เกมเปลี่ยน” อย่างจริงจัง ประการแรก UNODC ได้แต่งตั้ง พล.ต.อ.ดร.ธัชชัย ปีตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ เป็น หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจต่อต้านอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ เพื่อบูรณาการการทำงานข้ามประเทศ ซึ่งสะท้อนความจริงจังของชุมชนนานาชาติ ส่วนประการที่สอง พล.ต.อ.ดร.ธัชชัยฯ ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ (ผบ.ศกค.) หรือ International Anti-Scam and Human Trafficking Syndicate Command Center (IAC) เพื่อเป็นศูนย์บัญชาการร่วมในการกวาดล้างเครือข่ายในภูมิภาค อำนวยความสะดวกด้านข่าวกรอง การวิเคราะห์เครือข่าย และการปฏิบัติการพร้อมกันหลายประเทศ
ท้ายที่สุด พล.ต.ต.ดร.ศิริวัฒน์ ฝากถึงประชาชนว่า ความตื่นตัวและความระมัดระวังยังเป็นภูมิคุ้มกันที่สำคัญ “อย่าให้อารมณ์ รัก โลภ ตกใจ เชื่อใจ เสียดาย นำการตัดสินใจ” พร้อมย้ำว่าช่องทางแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือมีหลายช่องทาง และเมื่อเกิดเหตุให้รีบติดต่อเจ้าหน้าที่ทันทีเพื่อเพิ่มโอกาสอายัดและคืนเงิน